ไร้วี่แววคนผิด ! ปมลูกจ้างเชิดเงินหนี กว่า 10 ล้าน | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์
209,302
Published 2024-07-18
นางพิมพ์เดือน ศรียาภัย อายุ 68 ปี ผู้เสียหาย ได้นำเรื่องนี้มาร้องเรียนกับข่าวเย็นประเด็นร้อน ขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์รูปใบหน้าคนร้ายที่เอาเงินไป หากท่านใดพบเห็น ช่วยแจ้งเบาะแสมายัง สน.ปทุมวัน จะมีรางวัลมอบให้ ผู้สื่อข่าวของเราจึงลงพื้นที่ไปยังร้านแลกเงินย่านตลาดโบ๊เบ๊ กรุงเทพมหานคร
โดย นางพิมพ์เดือน เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.15 น. ตนได้เรียกลูกจ้างคนสนิทที่ชื่อ นายปรีดา อายุ 60 ปี ให้ขี่รถจักรยานยนต์พาไปเบิกเงินที่ธนาคาร 3 แห่ง ที่ใช้รถจักรยานยนต์ไปเพราะการจราจรติดขัด บวกกับสามีตาไม่ค่อยดีจึงขับรถไม่ได้ โดย นายปรีดา ขับรถพาตนไปเบิกเงินที่ธนาคารแรกกับธนาคารที่ 2 ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตนสังเกตเห็น นายปรีดา คุยโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งมาถึงธนาคารที่ 3 ตนเองเบิกเงินเสร็จ ก็นำใส่กระเป๋าสีดำ รวมกันแล้วเป็นเงิน 10 ล้านบาท ตนได้นำเงินไปวางไว้บริเวณด้านหน้ารถจักรยานยนต์ เพราะบริเวณนั้นจะวางกระเป๋าได้พอดี
ต่อมา ตนเองได้ให้ นายปรีดา ขี่รถจักรยานยนต์พาไปที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง เพื่อจะไปทำธุระต่อไม่นาน หลังจาก นายปรีดา มาถึงห้าง ได้จอดให้ตนเองลง ตนได้เดินลงไปแต่ตัว ไม่ได้ถือกระเป๋าเงินลงไปด้วย เพราะสุขภาพตัวเองไม่ค่อยดี ถือของหนักไม่ไหว และ นายปรีดา ทำทีเป็นดับเครื่องยนต์จอดรอ แต่พอตนเดินเข้าไปในห้างได้ไม่ถึง 20 ก้าว นายปรีดา ได้สตาร์ตเครื่องแล้วขี่รถหนีออกไปทันที ตนจึงรีบโทรศัพท์ไปหา นายปรีดา เพื่อถามว่าจะไปไหน แต่ไม่รับสาย ตนจึงยืนรออยู่ตรงนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ปรากฏว่า นายปรีดา ไม่กลับมา ตนจึงให้ลูกสาวพาไปแจ้งความที่ สน. ปทุมวัน
หลังแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยกันติดตามตัว นายปรีดา จนพบว่า หลังจาก นายปรีดา ขโมยเงินใบเสร็จ เวลา 13.15 นายปรีดา ได้ขี่รถไปที่ห้างสรรพสินค้าย่านอิสรภาพ ได้นำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ และเข้าไปซื้อเสื้อเปลี่ยนใหม่ จากนั้นเวลา 14.00 น. นายปรีดา ได้ไปซื้อรถจักรยานยนต์คันใหม่ และเวลา 18.00 น. ได้ขี่รถจักรยานยนต์คันใหม่ไปในซอยวัดลาดปลาดุก จังหวัดนนทบุรี โดยมีรถยนต์ของลูกสาวขับนำเข้าซอยไป จากนั้น นายปรีดา ได้หายเข้าไปในย่านสนามหลวง 2 จนไม่สามารถติดตามได้ในขณะนี้ จากนั้นตำรวจได้เรียกลูกสาวของนายปรีดามาสอบปากคำแล้ว ลูกสาวได้ปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้พบกับพ่อเลย
นางพิมพ์เดือน เล่าต่ออีกว่า เงินก้อนนี้ตนจะเบิกมาให้ลูกสาวเอาไว้หมุนในธุรกิจร้านแลกเงินของลูกสาว ตนเครียดมากนอนร้องไห้อยู่ทุกคืน ไม่คิดว่าคนที่เราไว้ใจจะทำกันได้ ที่ตนกล้าฝากเงินไว้กับ นายปรีดา เป็นเพราะว่าภรรยาของนายปรีดากับตนสนิทกันมา เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน หลาย 10 ปีแล้ว ขนาดลูกไม่มีเงินไปโรงเรียนจนยังให้เงินไปโรงเรียนอยู่เป็นประจำ และในช่วงโควิด-19 ภรรยาของนายปรีดาตกงาน ตนเองก็มาช่วยเหลือให้มาทำงานที่ร้าน แถมยังให้ นายปรีดา เข้ามาช่วยงานด้วย
ทั้งพาไปกินข้าวและเลี้ยงลูกสารพัด ตนไม่คิดเลยว่า นายปรีดา จะนิสัยแบบนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน นายปรีดาเป็นคนดี ไว้ใจได้ ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย และ นายปรีดา ได้พาตนไปเบิกเงินแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว เป็น 100 ครั้งแล้ว ก็ว่าได้
ตนเชื่อว่า นายปรีดา ไม่ได้ก่อเหตุเพียงลำพัง น่าจะมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เพราะจากการสังเกตคนรอบข้างของนายปรีดาแล้ว พบมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่หลายคน ตำรวจไล่ไทม์ไลน์ของ นายปรีดา ได้ขนาดนี้แล้ว ต้นยังแปลกใจว่าทำไมยังไม่สามารถจับกุม นายปรีดา ได้ ตนอยากให้ตำรวจเร่งจับคนร้ายได้โดยไว เชื่อว่า นายปรีดา อาจจะนำเงินไปฝากไว้กับคนสนิทหลายส่วน
ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปคุยกับ ภรรยาของนายปรีดา ได้ข้อมูลว่า ตนกับ นายปรีดา ได้เลิกกันมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังช่วยกันดูลูก โดย นายปรีดา มีหน้าที่ไปรับส่งลูกที่โรงเรียน ในความรู้สึกตนเองไม่เชื่อว่า นายปรีดา จะก่อเหตุขโมยเงินของนายจ้างไป เพราะ นายปรีดา เป็นคนใช้เงินไม่เก่ง ไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ถ้าหากมีหลักฐานว่า นายปรีดา รับเงินไปก็ต้องว่ากันไปตามหลักฐานนั้น แต่ส่วนลึกในใจตนไม่เชื่อ
ตอนนี้ตนก็เป็นห่วง นายปรีดา ว่าตอนนี้จะยังมีชีวิตอยู่ไหม ทำไมตำรวจหากันไม่เจอ เพราะ นายปรีดา ไปไหนมาไหนไม่เป็น ส่วนเรื่องที่ลูกสาวตนขับรถนำ นายปรีดา เข้าซอยวัดลาดปลาดุก เรื่องนี้ตนไม่เคยได้ยิน และไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นแน่นอน ส่วนเรื่องลูกชายที่ลงมาจากใต้กรุงเทพในวันที่ 1 กรกฎาคม และกลับใต้ในวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ นายปรีดา ก่อเหตุพอดี ตนยืนยันว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพ่อแน่นอน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
กดติดตามช่อง CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : linktr.ee/ch7hdnews_tero
#ข่าวเย็นประเด็นร้อน #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS
All Comments (21)
-
ถามแปลกทำเพื่ออะไรทำเพื่อเงินไงนึกยังไงเงิน 10 ล้านเอามาวางไว้ในแบบนี้คิดได้ยังไง
-
ไม่น่าทุบหม้อข้าวตัวเองเลย นายจ้างแบบนี้คงหาอยากแล้ว
-
ให้คุณยายได้ตังค์คืนไวไวนะคะ กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา ก็เพราะคุณยายไว้ใจนายไง ทำไมถึงละโมบโลภมากแบบนี้
-
ลูกจ้างรอโอกาศนี้มาเป็นปีๆ
-
ทำไมไม่ให้ลูกสาวพาไป แล้วเงินจำนวนเยอะเอาขึ้นมอร์เตอร์ไซด์ก็อันตรายมาก มิจฉาชีพมีทุกที่
-
ทำไมไม่โอนเงินให้ลูก ไม่น่าเบิกเงินสดออกมาเลย
-
เช็คสัญญาณมือถือทั้งครอบครัวครับเจอแน่
-
ตั้งสิบล้านประมาทเองญาติพี่น้องยังไว้ใจไม่ได้เลย
-
ก็หายไปแล้วไม่ครบ 10 ล้านแล้วก็ซื้อรถไปแล้ว
-
เงิน 10 ล้านทำกันง่ายๆแบบนี้ดีกว่าไปปล้นร้านทองอีก ถ้าคิดจะหนีแล้วอย่าใช้อีกเบอร์โทรศัพท์มือถือเป็นชื่อของตัวเองหรือสิ่งของต่างๆที่เป็นชื่อของตัวเองและห้ามติดต่อที่บ้านและห้ามกลับมาอีกต้องไปอยู่ที่อื่นที่ไม่มีใครรู้ บัตรประชาชนใบขับขี่ห้ามใช้ แต่สมัยนี้มักแต่สมัยใหม่ ถึงจะทำแบบนี้ได้แต่อาจจะหนีรอดไปได้เป็นเดือนเท่านั้นเองครับก็ถูกจับแล้ว เพราะรูปถ่ายมีและมีการออนไลน์เข้าไปที่โทรศัพท์มือถือของพวกตำรวจและโรงพักต่างๆด้วย ลักทรัพย์เขามาแล้วกลับมาหาลูกอีกแบบนี้ก็เสร็จสิครับ และลูกก็อาจจะโดนด้วยครับ😢
-
" .. อย่าไว้ใจทาง..อย่าวางใจคน...จะจนใจเอง ..."
-
น่าสงสารคุณยายผมเข้าใจคุณยายนะครับ ผมไว้ใจใคร ผมจะทุ่มเทให้กับเขา สำหรับคนที่เอาเงินคุณยายไป รู้ไหมว่าคุณทำร้ายจิตใจคุณยายแค่ไหนที่เขาไว้ใจคุณ ขอให้คุณยายกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิมและขอให้ได้เงินคืนโดยเร็ว
-
สะเพร่าเกิ้น.ถึงลูกจ้างจะอยู่กับเรากี่ปีก็ช่างคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ.เงิน.10.ล้านไม่ใช่น้อยๆไว้ใจได้เหรอ.เขาคงรอโอกาสนี้มานานแล้ว.เฮ้อ...
-
ทำไม่เบิกเงินออกมามากมายขนาดนั้น ประมาทมาก ถึงตามจับได้ เงินก็คงอยู่ไม่ครบหรือไม่อยู่แล้ว...
-
ลูกหลานไปไหนหมด เงินไม่ใช่น้อยเลย 10ล้านบาทเลยนะ เราว่าสมควรแล้วที่โดน
-
เพื่อนกันยืมไปแสนเดียว มันหนีหน้าหนีตา.....เหมือนคนไม่รู้จักกัน ทั้งๆที่สนิทกัน แบ่งข้าวกันกินตอนยามยาก
-
ให้รางวัลนำจับสัก 1 ล้านเกิน 10 วันได้ตัวแน่
-
ประมาทมากมายเลยคุณยาย
-
กรรมเวรเชื่อใจคนอื่น เกินไปเงินตั้งสิบล้าน ถ้าจับได้นี้ คงจะเหลือเงินไม่เท่าไหร่ ละ ขอให้ได้เงินคืนนะคะ
-
ป่านนี้มันก็เอาไปซื้อของแหละเป็นอสังหาหมดแล้ว