ถอดสูตรสิงคโปร์ พลิกเมืองร้อนให้เย็นขึ้นได้อย่างไร? | KEY MESSAGES #124
600,963
Published 2024-03-08
‘สิงคโปร์’ เป็นเมืองหนึ่งที่ก้าวหน้าอย่างมากในการต่อสู้กับความร้อน สิงคโปร์ทำอะไรบ้างถึงสามารถพลิกเมืองร้อนให้กลายเป็นเมืองเย็นได้?
Time Index
00:00 เริ่มรายการ
00:47 ‘ความร้อน’ ฆาตกรเงียบที่พร้อมปลิดชีพ
02:43 เมื่อโลกร้อนปะทะเกาะความร้อนในเมือง
06:16 Cooling Singapore Project
12:27 2024 ร้อนกว่า 2023
–––––––––––––––––––––––––––––––––
กดติดตาม และ กดกระดิ่ง : bit.ly/3Naelc3
ติดตาม THE STANDARD ในช่องทางอื่นๆ
Website : thestandard.co/
TikTok : www.tiktok.com/@thestandardth
Facebook : www.facebook.com/thestandardth
Twitter : twitter.com/thestandardth
Instagram : www.instagram.com/thestandardth.ig/
#สิงคโปร์ #โลกร้อน #KEYMESSAGES #TheStandardNews
All Comments (21)
-
-
คนไทยรู้ดีครับว่าปลูกต้นไม้มันทำให้โลกเย็นขึ้นและมีอากาศที่บริสุทธิ์เพิ่มขึ้น แต่ทุกรัฐบาลไฝที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจ รณรงค์ บังคับ แบบเป็นจริงเป็นจัง มีแต่ออกโฉนดทับพื้นที่ป่าสงวนและป่าอุทยาน ให้นายทุนเพิ่มขึ้นๆ
-
ผู้นำสิงคโปร์ วิสัยทันศ์ ก้าวล้ำ นำสมัย สุดยอดจริงๆๆ
-
สมแล้วที่เป็นประเทศที่ผู้นำเก่ง เห็นแก่ประเทศเป็นอันดับแรก ข้าราชการคอรัปชั่นน้อยมาก กฎหมายมีการบังคับใช้จริงอย่างเท่าเทียม
-
ไทยพลิกเมืองร่มเย็นจนเป็นเมืองร้อน
-
ไปมาล่าสุดเค้าปลูกต้นไม้ใหญ่เยอะมาก สองข้างทางมีแต้ต้นจามจุรี มันคลุมไม่ให้ถนนโดนแดดก็เลยเป็นการลดการเกิดคลื่นความร้อนไปด้วยในตัว
-
เมืองเขาช่วยกันปลูกต้นไม้ แต่ของเรามีอยู่ในธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แล้วแต่นกม นายทุน จนท.เทาร่วมกันโค่นป่าให้เป็นสมบัติส่วนตัว
-
ไทยเคยมีการรณรงค์ปลูกต้นไม้มานานแล้ว แต่ไม่มีการสานต่อนโยบายดีๆ พอหมดยุคก็เหมือนเดิม ข้อดีของสิงคโปร์คือมีผู้นำเก่ง และมีวิสัยทัศน์ มีการสานต่อ จริงจังกับปัญหาคอรัปชั่น บางประเทศปกปิด และละเว้นจนนำมาสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
-
เราทำแบบสิงคโปร์ได้ครับ แต่ต้องเริ่มที่แก้กฏหมายก่อน รุนแรงเด็ดขาด ภาษีที่เก็บ ต้องสร้างประโยชน์ได้จริงๆ ทุกวันนี้คอรัปชั่นยันรากหญ้า
-
ต้องยอมรับว่าทัศคติคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ให้คุณค่ากับพื้นที่สีเขียว ดูตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างพื้นที่สาธารณะ เช่นวัด ซึ่งควรเป็นพื้นที่ที่ร่มเย็น สัปปายะ เป็นรมณีย์สถาน แต่วัดส่วนใหญ่กลับตัดต้นไม้ เพื่อเป็นลานจอดรถ เป็นอาคาร นี่เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย ทัศคติที่ว่าใบไม้เป็นขยะ ถ้าไม่มีต้นไม้จะได้ไม่ต้องมีขยะ ซึ่งจริงๆ ปัญหานี้มันเกี่ยวโยงในหลายมิติมาก แต่ที่ทำได้เดี๋ยวนี้เลย คือให้ช่วยกันเพิ่มพื้นที่สีเขียว ใครมีพื้นที่บ้านสามารถปลูกต้นไม้ได้ แม้จะแค่ในกระถางก็ควรทำครับ และพยายามปลูกฝังลูกหลานให้รักต้นไม้ เห็นคุณค่าของต้นไม้ให้มากๆ เพราะเมื่อรัก เราจะดูแล และรักษาครับ😊
-
เย็นกว่าไทยแบบรู้สึกได้จริงๆ นั่งเครื่องบินจะเห็นชัดพื้นที่มาเลเซีย-สิงคโปจะเขียวสดกว่าพื้นที่ไทยเยอะ
-
ของเรามีแต่ตัดๆๆๆๆ ในเมืองหลวงก็มีแต่ต้นผักชีไว้โรยหน้า ประดับเมืองไว้ให้แค่สวยๆ ไม่ได้ช่วยให้ร่มเงาหรือดูดซับคาร์บอนเท่าไหร่
-
เราไปมาเมื่อมีนาคม 67 ต้นไม้เยอะมากจริงๆ และต้นใหญ่ๆทั้งนั้น ทุกที่เขียวไปหมด กระทั่งในห้าง ในสนามบิน ก็มีแต่ต้นไม้ สุดยอดจริงๆค่ะ
-
ฟังแล้วขนลุกมาก กลุ่มชนชั้นนำเขาก็คอยกินภาษีประชาชนแหละแต่กินแล้วมันทำประโยชน์ต่างจากของเรา ขอให้ไทยมีกลุ่มคนแบบนี้ไวๆนะครับ ไม่งั้นเราได้สูญพันธุ์แน่😂
-
ไทยเอาง่ายก่อน ก็แค่ปลูกต้นไม้รอบบ้านของทุกคน แล้วก็ปลูกป่าเพิ่มไปด้วยพร้อมๆกัน ซึ่งก็ต้องทำไปเรื่อยๆ อย่างน้อยๆก็จะช่วยดูดซับอากาศพิษได้ก่อนเลย
-
ไทยก็ตัดต้นไม้จะเอาที่เขาใหญ่ให้ได้
-
สิงคโปร์เน้นปลูก ไทยเน้นตัด สถานที่ราชการนิยมต้นไม้ ที่ให้ร่มเงาไม่ได้ เน้นสวยงาม ถถถถถถถถ
-
เคยไปทำงานที่สิงค์โปร์เมื่อ15ปีที่แล้ว..สิงค์โปร์จะปลูกต้นไม้เยอะมากไม้โดยเฉพาะต้นจามจุรีปลูกสองข้างถนน..และมีวิธีการจัดการที่ดีเยี่ยมโดยการจ้างบริษัทเอกชนตัดแต่งกิ่ง.ไม่มีการตัดต้นไม้เหลือแต่ตอเหมือนบ้านเรา.แรงงานที่ใช้เป็นแขกบังคลาเทศ
-
ต้อง เลิก สร้าง.สิ่ง ปลูกสร้าง โดยเฉพาะ วัด ควรเป็นต้นเบบ พื้นที่ อนุรักษ ต้นไม้
-
ประเทศเราก็ปลูกครับ ปลูกให้พอโตเเล้วก็ตัดทิ้งปล่อยให้ตาย โดยอ้างว่ระบบรากมันทำให้ถนนพัง - แล้วตอนปลูกทำมัยไม่คิดว่าจะปลูกอะไร - ควรมีข้อกำหนดว่าตึกต้องมีพิ้นที่สีเขียวเท่าไหร่ - เกาะกลางถนนทั้งในเมือง/นอกเมืองต้องวางเเผนปลูกต้นไม้ ต้นอะไรไม่ใช่พอโตก็ตัดทิ้ง - นโยบายปลูกต้นไม้แสนต้น ล้านต้น มันมีตั้งนานเเล้วปัญหาคือมีงบให้ปลูก แต่ไม่มีงบมาดูแล ปลูกแสนต้นก็ตายไปซะ9หมื่นกว่าต้น พอโตก็ตัดทิ้งเตรียมพื้นที่ให้มาปลูกให่